กำแพงเมืองจีน

กำแพงเมืองจีน กำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ เป็นสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี ในบทความนี้ Travelzeed จะย้อนเวลากลับไปในยุคเริ่มแรกของกำแพงเมืองจีน เดิมทีประวัติศาสตร์ที่พบส่วนใหญ่ระบุว่ากำแพงเมืองจีนเริ่มต้นขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน โดยจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huangdi) ผู้ริเริ่มการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนเมื่อ 221 ปีก่อนคริสตกาล

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดพบว่าการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนเริ่มต้นขึ้นในช่วงยุคชุนชิว โดยกำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นเมื่อ 770 ปีก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล การสร้างกำแพงเมืองจีนมีขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานของชนเผ่าทางตอนเหนือและคนเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน ส่งผลให้กำแพงมีความยาว 5 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นกำแพงโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในจีน โดยมีต้นกำเนิดจากรัฐฉี

ในสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huangdi) ในราชวงศ์ฉิน ในปี 221 ก่อนคริสตกาล จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้สร้างกำแพงเมืองจีน โดยสร้างโดยเชื่อมกำแพงรัฐจ้าวและหยานเข้าด้วยกัน แล้วรวมเข้ากับรัฐฉิน จึงเกิดเป็นกำแพงหมื่นลี้ซึ่งมีความยาวหลายหมื่นลี้จากตะวันออกไปตะวันตก

ราชวงศ์ฮั่น (206 ก่อนคริสตกาล) เกณฑ์ทหารจำนวนมากมาบูรณะและขยายราชวงศ์ฉิน ทำให้กำแพงเมืองจีนกลายเป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในจีน

ราชวงศ์สุย (ค.ศ. 581-618) ในรัชสมัยของจักรพรรดิสุย นักวิชาการถูกเกณฑ์มาช่วยซ่อมแซมกำแพงเมืองจีนในช่วงฤดูหนาวหลายครั้ง นอกจากการซ่อมแซมแล้ว พระองค์ยังทรงมีรับสั่งให้ขยายกำแพงเมืองจีนไปจนถึงบริเวณมณฑลส่านซี ซึ่งต้องใช้คนงานถึง 1 ล้านคน ราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644): เป็นราชวงศ์ที่มีการขยายอาณาจักรและซ่อมแซมอาณาจักรถึง 20 แห่ง เริ่มจากทางตะวันตกไปจนถึงภูเขาหูซานทางตะวันออกของมณฑลเหลียวหนิง กำแพงเมืองจีนส่วนใหญ่ที่เราเห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง

ความจริงของ กำแพงเมืองจีน

  • กำแพงเมืองจีนมีคนตาย: เนื่องจากการก่อสร้างกำแพงเมืองจีน ต้องใช้แรงงานหลักล้านคน เพื่อให้ทันต่อความต้องการของฮ่องเต้ ดังนั้นจึงมีการเกณฑ์ทั้งประชาชน นักโทษและทาส เข้ามา สร้างกำแพง แต่ด้วยความเหนื่อย ความหิว ก็ทำให้คนงานเสียชีวิต ซึ่งศพก็ถูกฝั่งภายใต้กำแพงเมืองจีน
  • กำแพงเมืองจีนไม่ได้ยาวตลอด: กำแพงเมืองจีนถูกก่อสร้างต่อเติมมาหลายครั้ง ทำให้เป็นการเชื่อมต่อแต่ละส่วนเข้าด้วยกันนั้นเอง
  • กำแพงเมืองจีนใช้วัสดุก่อสร้างไม่เหมือนกัน: โดยวัสดุจะแตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัย เช่น ในยุคแรกจะใช้ ไม้ ดินละหิน เป็นส่วนประกอบ ส่วนบริเวณกรุงปักกิ่งจะใช้หินอ่อน ทางทิศตะวันตกใช้โคลน เป็นหลัก
  • กำแพงเมืองจีนสามารถมองเห็นจากพระจันทร์?: คำตอบคือ ไม่จริง เพราะสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเมื่อมองจากอวกาศจะมองไม่เห็น อย่างกำแพงเมืองจีนเองก็จะถูกกลืนไปกับสีธรรมชาติ อย่างดินและหิน เป็นต้นกำแพงเมืองจีน
  • กำแพงเมืองจีนสั้นลง: เนื่องจากผ่านเวลามากกว่า 2,500 ปี ประกอบกับขาดการดูแล ขาดการบูรณะซ่อมแซม ส่งผลให้กำแพงเมืองจีนในปัจจุบันสั้นลง จนเหลือเพียง 1/3 เท่านั้น

1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

กำแพงเมืองจีน (長城) มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งในสมัยราชวงศ์ฉิน เพื่อป้องกันการรุกรานจากชาวฮั่นหรือชนเผ่าเร่ร่อนบนหลังม้าในสมัยนั้น ซึ่งมักจะรุกรานชาวจีนตามแนวชายแดนและเป็นศัตรูกับชาวจีนในสมัยนั้น กำแพงนี้ถูกสร้างขึ้นก่อนรัชสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ด้วยซ้ำ โดยรัฐหรืออาณาจักรตามแนวชายแดนเพื่อปกป้องตนเอง

แม้ว่าชนเผ่าเร่ร่อนจากทางเหนือจะมีประชากรน้อยกว่าชาวจีนมาก แต่เมื่อพวกเขาขี่ม้า พวกเขาก็ชำนาญและแม่นยำในการใช้ธนูและลูกศร นอกจากนี้ ชาวเหนือเหล่านี้ยังมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายสูง ทำให้พวกเขาเป็นภัยคุกคามทางการทหารที่ร้ายแรง

จนกระทั่งจิ๋นซีฮ่องเต้ (หรือจิ๋นซีฮ่องเต้) รวบรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวในปี 221 ก่อนคริสตกาล และเริ่มโครงการสร้างป้อมปราการและกำแพงของรัฐต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นกำแพงยาวเพียงแห่งเดียว ถือเป็นกำแพงระยะแรกมีความยาวรวมประมาณ 5,000 กิโลเมตร

“ตำนานเล่าว่ากำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นโดยใช้มังกรเป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอำนาจสูงสุด “มีพลังในการปกป้องและคุ้มครองดินแดนของตนเอง”

สำหรับช่วงเวลาต่อไปนี้ เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น (100 ปีก่อนคริสตกาล) ราชวงศ์สุย (581 ค.ศ. – 618 ค.ศ.) ราชวงศ์หยวน (1271 ค.ศ.) และราชวงศ์หมิง (1368 ค.ศ. – 1644 ค.ศ.) ในแต่ละยุคแต่ละช่วง กำแพงได้รับการขยาย เสริมความแข็งแกร่ง รวมถึงสร้างส่วนต่างๆ ใหม่ ทำให้กำแพงยาวขึ้นอีก จากการสำรวจของสำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติจีน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2012 พบว่ากำแพงมีความยาวรวม 21,196.18 กิโลเมตรกำแพงเมืองจีน

กำแพงเมืองจีนครอบคลุม 9 มณฑล ได้แก่ เหลียวหนิง เทียนจิน เหอเป่ย ปักกิ่ง มองโกเลียใน ซานซี ส่านซี หนิงเซี่ย และกานซู่ เนื่องจากกำแพงครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง ชาวจีนจึงเรียกกำแพงนี้ว่า “กำแพงหมื่นลี้”

บทความที่เกี่ยวข้อง