stonehenge

stonehenge สโตนเฮนจ์เป็นกลุ่มของเสาหินยักษ์ 112 ต้นที่เรียงกันเป็นวงกลม 3 วงซ้อนกัน ตั้งเด่นอยู่กลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่บนที่ราบซอลส์บรีทางตอนใต้ของอังกฤษ หินบางก้อนตั้งตรง บางก้อนนอนราบทับซ้อนกัน สโตนเฮนจ์เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของยุคกลางและมีอยู่มานานนับพันปี

นักโบราณคดีเชื่อว่ากลุ่มหินนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อนคริสตกาล การหาอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสีประมาณการว่าหินก้อนแรกถูกวางไว้เมื่อประมาณ 2,000-1,300 ปีก่อนคริสตกาล ทฤษฎีอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าเฮนเยส ซึ่งแปลว่า “หินหรือวงกลมไม้” ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล หรืออาจเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระอาทิตย์ เนื่องจากหินเรียงกันเป็นแนวตรงกับพระอาทิตย์

นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์พยายามค้นหาว่าคนในสมัยโบราณสามารถยกเสาหินยักษ์ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 30 ตันขึ้นมาวางเรียงกันได้อย่างไรโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วยประหยัดแรงงานที่เราใช้กันในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังไม่มีสัญญาณของหินยักษ์เหล่านี้ในพื้นที่ดังกล่าว จากการศึกษาพบว่าผู้ก่อสร้างอาจลากหินทั้งหมดมาจากที่อื่น ซึ่งน่าจะมาจากทุ่งมาร์ลโบโรห์ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร

ไขปริศนา สโตนเฮนจ์ stonehenge

สโตนเฮนจ์ หนึ่งในสถานที่โบราณลึกลับและสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางในอังกฤษ ยังคงไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้าง สร้างมาเพื่ออะไร สร้างขึ้นมาได้อย่างไร แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับกลุ่มเสาหินลึกลับนี้กันก่อน สโตนเฮนจ์ตั้งอยู่กลางที่ราบซอลส์บรีทางตอนใต้ของอังกฤษ มองเห็นได้ชัดเจนเพราะไม่มีอาคารอื่นใดอยู่รอบๆ มีเสาหินทั้งหมด 112 ต้น เรียงเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง และวางในท่าต่างๆ ทั้งนอน พิงกัน และตั้งตรง นักวิทยาศาสตร์ได้คำนวณอายุของกลุ่มหินเหล่านี้และพบว่าน่าจะสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 3,000-2,000 ปีก่อนคริสตกาลstonehenge

กล่าวโดยสรุปคือมีอายุมากกว่า 5,000 ปี! การก่อสร้างสโตนเฮนจ์ใช้เวลาต่อเนื่องกัน 3-4 ขั้นตอนตลอดระยะเวลาประมาณ 1,500 ปี โดยคำนวณจากข้อเท็จจริงที่ว่าหินแต่ละก้อนและแต่ละชั้นมีอายุต่างกัน มาจากยุคต่างๆ ตั้งแต่ยุคหินตอนปลายถึงยุคสำริดตอนต้น สิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่มีหินยักษ์เช่นนี้บนที่ราบ แหล่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ Marlborough Downs ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีหินสีน้ำเงินหนัก 4 ตันที่พบในเทือกเขา Preseli ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเวลส์ (เชื่อกันว่าหินนี้ถูกพัดมาด้วยแพตามแนวชายฝั่งเวลส์และแม่น้ำเอวอน จากนั้นจึงลากมาบนบก)

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ผู้คนในสมัยนั้นใช้สิ่งใดยกหินหนัก 30 ตันที่ลากมาจากที่ไกลๆ ดูเหมือนว่าในสมัยนั้นจะไม่มีอุปกรณ์ประหยัดแรงงานเหมือนที่เราใช้ในปัจจุบัน ไม่ต้องพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าหินต้องได้รับการขัดเงาเพื่อให้มีขอบ กลม มีสลักและเดือยที่ช่วยให้หินวางทับกันได้พอดีและมั่นคง ว่ากันว่าเป็นผลงานของมนุษย์ต่างดาวที่มาเยือนโลกและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้างมันขึ้นมา บางคนว่ากันว่าเป็นผลงานของยักษ์ในสมัยโบราณ

วัตถุประสงค์ในการสร้างสโตนเฮนจ์

แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีใครทราบจุดประสงค์ของการก่อสร้าง แต่ก็มีข้อสันนิษฐานมากมาย ตัวอย่างเช่น ตัวอย่างที่นิยมกันมากที่สุดคือ:

ผู้คนในศตวรรษที่ 18 และ 19 เชื่อว่าเป็นวิหารที่พวกดรูอิดเคยบูชาพระอาทิตย์และสังเวยมนุษย์ ความคิดนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้เนื่องจากสโตนเฮนจ์สร้างเสร็จอย่างน้อย 1,000 ปีก่อนที่พวกดรูอิดจะรุ่งเรือง

สร้างขึ้นเพื่อศึกษาดาราศาสตร์ เพื่อสังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า เช่น สุริยุปราคาและจันทรุปราคา เป็นเครื่องคำนวณยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ใช้เป็นปฏิทินดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ เนื่องจากเส้นของหินที่สั่นสะเทือนแต่ละก้อนมีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์stonehenge

ใช้เป็นสถานที่บำบัดรักษา ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงและดนตรีจากมหาวิทยาลัยฮัดเดอส์ฟิลด์ค้นพบว่าเสาหินยักษ์ที่ตั้งเป็นวงกลมเหนือเนินสามารถสะท้อนเสียงได้อย่างน่าอัศจรรย์ นักวิจัยเชื่อว่าดนตรีที่เล่นในสโตนเฮนจ์ต้องเป็นจังหวะเรียบง่ายซ้ำๆ ที่ก้องกังวานในบริเวณนั้น ซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีนาโนเมคานิกส์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงการวิจัยด้านการแพทย์ การผ่าตัด การผลิตอาหาร และเชื้อเพลิง

ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีศพ และเป็นอนุสรณ์แห่งความตายของชนชั้นสูงในยุคก่อนประวัติศาสตร์ จากการขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณถูกฝังอยู่ในบริเวณนั้นตั้งแต่ประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สโตนเฮนจ์เริ่มสร้าง และคาดว่าจะถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีศพของชนชั้นสูงในยุคหินไม่น้อยกว่า 500 ปี อย่างไรก็ตาม แม้ผลการตรวจสอบโครงกระดูกที่ขุดพบจากบริเวณสโตนเฮนจ์จะระบุว่าสโตนเฮนจ์เคยถูกใช้เป็นสุสาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านั่นคือจุดประสงค์แรกของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สร้างสโตนเฮนจ์ขึ้นมา

บทความที่เกี่ยวข้อง